นับจาก ม.44 ที่ปิดล้อมวัดพระธรรมกายเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
และก็ยังไม่ปรากฎ"เงา"ของหลวงพ่อธัมมชโย
'ธรรมกาย'ดูเหมือนจะสงบนิ่งอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว
ไม่มีกิจกรรมอภิมหาโปรเจคอะไรออกมาให้เป็นข่าว
มีแค่ทอดผ้าป่า..บวชพระ..ตักบาตร.. พอให้ญาติโยมได้ทำบุญ
และการสวด"ธัมมจักรฯ"ที่มิเคยว่างเว้นแม้แต่วันเดียว
นับตั้งแต่วันเข้าพรรษาปี 2559 จนถึงปัจจุบัน
และเตรียมจะไปให้ถึงยอด 277,777,777 จบ
ในวันคล้ายวันเกิดหลวงพ่อทัตตชีโว 21 ธันวาคมศกนี้
แต่แล้วการปลูกต้นเบญจทรัพย์ที่..ทุ่งสวรรค์ ตะวันฉาย
บนเนื้อที่ 300 ไร่ ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง ไม่ไกลจากวัด
เพื่อเตรียมไว้สำหรับธุดงค์ธรรมชัยในเดือนมีนาคม
ก็เรียกหาเหล่า"สหายเก่า"ที่มิยอมญาติดีกันไม่ว่าชาตินี้ชาติไหน
ทั้งสำนักพิมพ์และคอลัมนิสต์ที่คอยจองกฐินกันมาตลอด
พยายามตีฆ้องร้องป่าวให้ช่วยกันจับตาดูอีเวนท์ใหม่ของธรรมกาย
อย่ามัวแต่หลงปลื้มไปกับ"พี่ตูน"ที่กำลังเป็นฮีโร่อยู่ตอนนี้
เพราะกลัวว่ากระแสวิ่งสู้ฟัดของพี่ตูนจะลามข้ามปีจนฉุดไม่อยู่
จนต้องรีบ"ตีข่าว"ว่าธรรมกายกำลังระดมทุนทวงคืนศรัทธา
จริงแล้วการปลูกต้นเบญจทรัพย์หรือก็คือต้นเบญจมาศ
ก็เป็นเพียงแค่กุศโลบายเพื่อให้ระลึกนึกถึงบุญได้ง่าย
ลงมือปลูกด้วยตัวเองเพื่อนำไปใช้ในเส้นทางที่พระเดินธุดงค์
มันก็คือทางมาแห่งบุญที่สมบูรณ์ทั้ง 3 วาระคือ
ปลื้มตั้งแต่ก่อนทำ..ขณะกำลังทำ..และหลังจากทำไปแล้ว
คนที่ตั้งใจทำความดี ทำเพื่อสังคม เหมือนอย่าง..พี่ตูน
ตอนแรกก็มีทั้งคนเห็นด้วยและมิเห็นด้วย
แต่พี่ตูนก็มุ่งมั่นและรู้อยู่ว่าตัวกำลังทำอะไร
จึงมิย่อท้อและ"ก้าวคนละก้าว"ต่อไปไม่หยุดยั้ง
จนวันนี้ได้รับการยอมรับไปทั่วประเทศแล้วว่า"คนจริง"
เห็นภาพงานบุญเมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา
ทั้งพิธีจุดโคมและปลูกต้นเบญจทรัพย์ ณ.ลานธรรม วัดพระธรรมกาย
ฟ้องถึงศรัทธาที่ไม่หวั่นไหวของเหล่าพุทธศาสนิกชน
ที่ยังรักในพระพุทธศาสนาและการสั่งสมบุญอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพัน
จึงมั่นใจได้ว่าพระพุทธศาสนาจะคงอยู่คู่ชาติไทยไปอีกนานแสนนาน
กึ่งศตวรรษ..